ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ถือเป็นภัยอันตรายที่มาในรูปแบบที่คุณไม่สามารถสัมผัสหรือรู้สึกได้ เพราะก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส แต่มีอันตรายอย่างร้ายแรงต่อระบบลำเลียงเลือด เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบหรือเกิดจากการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรมและสามารถพบได้ในอีกหลายๆ แห่ง ซึ่งในชีวิตประจำวันของเรามีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์อยู่ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป สำหรับบริเวณอากาศปกติจะมีปริมาณ 0.1 ppm (parts per million) ถึงระดับที่สูงขึ้นในปริมาณ 100 ถึง 200 ppm สำหรับบริเวณเมืองหลวงที่มีปริมาณรถยนต์เยอะหรือระดับที่สูงกว่านี้ในบริเวณปล่องไฟที่มีการเผาไหม้มีปริมาณ 5,000 ถึง 7,000 ppm สำหรับภายในที่พักอาศัยจะพบได้เยอะในบริเวณที่มีการเผาไหม้ เช่น การหุงต้มอาหารภายในบ้านจะมีปริมาณก๊าซ 15 ppm
ความอันตรายของก๊าซชนิดนี้ที่มาในรูปแบบที่เราไม่สามารถสัมผัสหรือรู้สึกได้และยังสามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของทุกคนรวมไปถึงภายในที่พักอาศัยอีกด้วย ซึ่งก๊าซชนิดนี้จะส่งผลต่อสุขภาพของคุณโดยตรง เมื่อรับก๊าซชนิดนี้เข้าไปในร่างกายในปริมาณมากจะเกิดภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon Monoxide Poisoning) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถรวมตัวกับเฮโมโกลบินและเปลี่ยนเป็นอ๊อกซีเฮโมโกลบิน (Oxyhaemoglobin) จะทำให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เพราะสมองได้รับออกซิเจนน้อยกว่าปกติ ซึ่งหากในสภาวะพื้นที่อับอากาศที่ไม่มีการถ่ายเทของอากาศได้ดีและมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณมากอาจมีผลขั้นรุนแรงถึงชีวิต
ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ (Carbon Monoxide Poisoning) มีอันตรายมากกับผู้ที่หมดสติหรือผู้ที่มึนเมาเพราะอาจเกิดความเสียหายต่อสมองหรือเสียชีวิตได้ก่อนที่จะรู้ตัว ระดับปริมาณของก๊าซจะมีผลกับร่างกายของเราแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ระดับปริมาณ 50 – 200 ppm จะทำให้มีอาการปวดศรีษะเล็กน้อยและอ่อนเพลีย
ระดับปริมาณ 200 – 400 ppm เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะรุนแรง อาจถึงขั้นเป็นลม
ระดับปริมาณ 1,200 ppm เกิดอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติและเริ่มเต้นผิดจังหวะ
ระดับปริมาณ 2,000 ppm อาจถึงขั้นหมดสติและอาจเสียชีวิต
ระดับปริมาณ 5,000 ppm อาจทำให้เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที ต้องรีบนำผู้ป่วยมาในบริเวณอากาศบริสุทธิ์ที่มีออกซิเจนเพียงพอ
ภายในที่พักอาศัยของคุณสามารถพบก๊าซชนิดนี้ได้เหมือนกัน เช่น เครื่องยนต์และท่อไอเสียของรถยนต์ เตาถ่านปิ้งย่าง เตาแก๊สทำอาหาร ตะเกียงน้ำมัน หม้อต้ม เตาผิง เป็นต้น การสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณเล็กน้อยอาจไม่ส่งผลอันตรายแต่หากเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ได้รับก๊าซชนิดนี้ในปริมาณมากอาจส่งผลถึงขั้นที่อันตรายต่อชีวิตได้ เช่น การเผาถ่านในห้องอับหรือเปิดเครื่องยนต์รถยนต์ไว้แล้วจอดอยู่กับที่อาจทำให้เกิดการสะสมของก๊าซได้ สรุปได้ว่าในพื้นที่พักอาศัยถึงจะพบก๊าซชนิดนี้ได้ในปริมาณไม่สูงแต่หากเกิดก๊าซนี้ในสถานการณ์ที่บริเวณนั้นเป็นที่อับอากาศ อากาศไม่มีการถ่ายเท จนเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ก็จะส่งผลอันตรายได้
หนึ่งในวิธีการป้องกันและตรวจสอบก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์คือการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ สำหรับ “ระบบ Smart Home” ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นสำคัญจึงเกิดเป็น “อุปกรณ์ตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์” หรือ “CO Sensor จากแบรนด์ “FIBARO” ที่เป็นแบรนด์ Smart Home อันดับต้นของโลก โดย “FIBARO CO Sensor” มาพร้อมกับหลากหลายฟังก์ชันที่จะคอยตรวจสอบ ป้องกันและดูแลผู้พักอาศัยได้อย่างครบทุกรูปแบบ เพราะนอกจากฟังก์ชันการตรวจสอบก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์แล้ว ยังมี Sensor ตรวจวัดอุณหภูมิ และแจ้งเตือนผ่านเสียงและไฟ LED ของอุปกรณ์ ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถตรวจสอบปริมาณของก๊าซได้ตั้งแต่ปริมาณที่น้อยมากๆไปจนถึงปริมาณสูงที่จะส่งผลอันตรายต่อผู้พักอาศัย เนื่องจากอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายที่ส่งผลต่อร่างกายโดยตรงทำให้ได้รับการรับรองจากระดับสากลถึงคุณภาพของอุปกรณ์ นอกจากนี้อุปกรณ์ยังเก็บข้อมูลประวัติของปริมาณก๊าซที่เกิดขึ้นให้คุณสามารถตรวจสอบและคอยเฝ้าระวังได้ตลอดเวลาและมีการบอกค่าที่ชัดเจนว่าปริมาณก๊าซในช่วงไหนที่เกิดขึ้นมีผลกับสุขภาพอย่างไร คุณสามารถตรวจสอบค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เกิดขึ้นผ่าน Smartphone ของคุณได้จากทุกที่ ทุกเวลา และสามารถตั้งการแจ้งเตือนเมื่อมีปริมาณก๊าซที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจากการแจ้งเตือนมาที่ Smartphone ของคุณแบบ Real-Time และจากอุปกรณ์ FIBARO CO Sensor เองด้วย
เพราะระบบ Smart Home ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและการประหยัดพลังงานเพียงเท่านั้น แต่ระบบ Smart Home ยังถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยจากอันตรายของบุคคลภายนอกรวมไปถึงความปลอดภัยของสุขภาพของคุณ อย่างเช่นอุปกรณ์ “FIBARO CO Sensor” ทุกอุปกรณ์ Smart Home ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไปของผู้ใช้งานโดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
